วธ.ผลักดันกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ระดับแนวหน้าของเอเชีย จัดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7

Last updated: 10 ม.ค. 2565  |  1691 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วธ.ผลักดันกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ระดับแนวหน้าของเอเชีย จัดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7

วธ.ผลักดันกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ระดับแนวหน้าของเอเชีย จัดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7 คัดสุดยอดภาพยนตร์อาเซียน จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย 37 เรื่อง จัดฉายให้ชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 8-13 ธ.ค. นี้

วันที่ 8 ธันวาคม 2564 เวลา 19.00 น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7 โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายประสพ เรียงเงิน รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม น.ส.วรรณสิริ โมรากุล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ผู้แทนหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ร่วมจัดงาน เข้าร่วม ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

นายอิทธิพล กล่าวว่า ช่วงเวลาเกือบ 2 ปีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อทุกธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก จนเกิดเป็นการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การเปิดประเทศของไทย เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จึงเป็นอีกโอกาสหนึ่งภายใต้แนวคิดใหม่ คนไทยสามารถอยู่ร่วมกับโควิดได้อย่างเท่าทัน เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว และธุรกิจด้านสารัตถะ (Content) อันเอื้อประโยชน์ไปยังทุกภาคส่วนให้ดำเนินธุรกิจของประเทศได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ หน่วยงานรัฐและเอกชน จัดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2564 (Bangkok ASEAN Film festival 2021) ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 8 -13 ธันวาคม 2564 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า และโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งนับเป็นอีกโอกาสที่สำคัญสำหรับบุคลากรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศพันธมิตรในเอเชีย จะได้ร่วมมือกันฟื้นฟูและร่วมกันเริ่มต้นใหม่เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ให้ยั่งยืนต่อไป และเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และ วีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ที่มุ่งใช้มิติวัฒนธรรมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย และผลักดันให้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ระดับแนวหน้าของเอเชีย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า งานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนฯ ครั้งนี้ มีการฉายภาพยนตร์เปิดเทศกาล คือ One Second ผลงานกำกับของจางอี้โหมว ผู้กำกับชั้นครูจากสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้งตลอดงานเทศกาลฯมีการจัดฉายภาพยนตร์คุณภาพ 37 เรื่อง จากประเทศสมาชิกอาเซียน และภาพยนตร์จากกลุ่มเอเชียได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอินเดีย ซึ่งทุกเรื่องจะมีบทบรรยายภาษาไทย-อังกฤษ เข้าชมฟรีทุกเรื่องทุกรอบ โดยแบ่งเป็นภาพยนตร์จัดฉาย ดังนี้

1.ภาพยนตร์อาเซียนฉายโชว์ (SHOWCASE : ASEAN PLUS) ภาพยนตร์จากประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนและจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและอินเดีย รวม 12 เรื่อง จัดฉายเรื่องละ 2 รอบ อาทิ ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Belle ผลงานของมาโมรุ โฮโซดะจากประเทศญี่ปุ่น, Vengeance Is Mine, All Others Pay Cash ผลงานของเอ็ดวิน และ Yuni ผลงานของผู้กำกับหญิง คามิลา อันดินี สองภาพยนตร์จากสาธารณรัฐอินโดนีเซียที่คว้ารางวัลใหญ่จากเทศกาลสำคัญๆ ในปีนี้ The Edge of Daybreak (พญาโศกพิโยคค่ำ) ผลงานภาพยนตร์ของไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์ จากประเทศไทย, White Building ผลงานภาพยนตร์ของ Kavich Neang ผู้กำกับคลื่นลูกใหม่จากประเทศกัมพูชา, In Front of Your Face ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ Hong Sangsoo ผู้กำกับเกาหลีใต้ระดับแนวหน้า, A Night of Knowing Nothing ภาพยนตร์จากผู้กำกับหญิงหน้าใหม่ Payal Kapadia จากประเทศอินเดีย เป็นต้น

2.การฉายภาพยนตร์ของสายการประกวดภาพยนตร์สั้นอาเซียน (ASEAN SHORT FILM COMPETITION) 14 เรื่อง พิจารณาตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและต่างประเทศ 3 ท่าน โดยมอบรางวัล ดังนี้ (1) รางวัล BEST ASEAN SHORT FILM ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 2,000 USD (2) รางวัล JURY PRIZE ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 1,000 USD (3) รางวัล SPECIAL MENTION ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 500 USD และเพื่อให้เกิดความหลากหลายและขยายขอบเขตการสนับสนุนภาพยนตร์สั้นในภูมิภาคและพันธมิตรในเอเชีย โดยงานเทศกาลฯ ได้จัดฉายสายโชว์ของภาพยนตร์สั้น (BAFF SHORT FILM SHOWCASE) เป็นการรวบรวมผลงานภาพยนตร์สั้นที่โดดเด่นในรอบปีจากเทศกาล เมืองคานส์ 3 เรื่อง พร้อมฉายร่วมกับภาพยนตร์สั้นจากผู้ชนะ 3 รางวัลจาก SHORT FILM PROJECT (PROJECT 19)

3.การจัดฉายภาพยนตร์อาเซียนทรงคุณค่า (ASEAN Classic) 3 เรื่อง ได้แก่ ช่างมัน ฉันไม่แคร์ นำแสดงโดย สินจัย เปล่งพานิช, ลิขิต เอกมงคล ผลงานกำกับของ หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล, Aimless Bullet หนึ่งในภาพยนตร์เกาหลีที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ และ The Daughter of Japan ผลงาน ที่หาดูยากจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การประกวดโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ขนาดยาวอาเซียน (SEA PITCH) : SOUTHEAST ASIAN PROJECT PITCH) คัดเลือกโครงการสร้างภาพยนตร์ขนาดยาว 8 โครงการ โดยคนทำหนังจากภูมิภาคอาเซียนที่มีไอเดียในการผลิตภาพยนตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโครงการที่ผ่านการคัดเลือกผู้กำกับและโปรดิวเซอร์จะเข้าร่วมอบรมพิเศษออนไลน์ด้านการนำเสนอโปรเจกต์ (Pitching) กับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ 2 ครั้ง เพื่อเตรียมตัวนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการทรงคุณวุฒิระดับนานาชาติ และมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวด จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ 1.รางวัล SEAPITCH Award ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 5,000 USD 2.รางวัล Runner-Up Prize ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 3,000 USD และ3.รางวัล SPECIAL MENTION ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 2,000 USD โดยจะมีพิธีประกาศรางวัลและปิดเทศกาลในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซินีเพล็กซ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันในวันที่ 9 ธันวาคม 2564 มีการสัมมนาหัวข้อ “IS ASEAN CONTENT READY TO TAKE ON THE WORLD?” ณ อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญทางภาพยนตร์ในระดับนานาชาติ มาร่วมกันวิเคราะห์ให้เห็นถึงสถานการณ์การผลิตคอนเทนต์ของภูมิภาคว่าอนาคตของคอนเทนต์เหล่านี้จะอยู่จุดไหนในวงการภาพยนตร์ระดับโลกและในวันที่ 10 ธันวาคม 2564 จะมีการสัมมนาหัวข้อ “Going Virtual” ร่วมกับ ACBS (Asia Content Business Summit) ณ อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีการนำเสนอข้อมูลวิชาการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมฯจากประเทศต่างๆ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน อินโดนีเซีย เกาหลีใต้และฟิลิปปินส์ รวมทั้งการประกาศโครงการของ ACBS กับการรายงานสถานการณ์ของประเทศสมาชิกแนวโน้มของอุตสาหกรรมสารัตถะภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) และการเสนอโครงการความร่วมมือด้านภาพยนตร์ระหว่างประเทศจากทวีปเอเชีย โดยการจัดงานครั้งนี้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ผู้สนใจลงทะเบียนจองบัตรชมภาพยนตร์ล่วงหน้าได้ที่www.baff.go.thและ www.facebook.com/BangkokAseanFilmFestival ตั้งแต่บัดนี้และรับบัตรชมภาพยนตร์ได้ที่จุดประชาสัมพันธ์เทศกาลฯ บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ก่อนรอบฉาย 30 นาที โดยรับบัตร 1 คน ต่อ 1 ที่นั่ง

ตรวจสอบรอบฉายและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 022093519 และwww.facebook.com/BangkokAseanFilmFestival

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้